ThaiDDNS : Dynamic DNS, dynamic domain name service, dynamic ip, ddns server, DDNS ดีดีของไทย cctv online กล้องวงจรปิดผ่านเน็ต

Username Password

Forget Password


	THAIDDNS TIPS.

การทำวิทยุออนไลน์

หลังจากที่มีการถามกันอย่างมากในบอร์ดของเรา เกี่ยวกับเรื่องการทำ internet radio ซึ่งทางเว็บองก็เลยจัดทำบทความนี้ขึ้นมา ก็เพื่อตอบสนองความฝันของหลายคนในการอยากเป็น DJ ซึ่งก็ถือว่าได้ใช้งาน broadband internet อย่างคุ้มค่าจริงๆ

ทำความรู้จักกับ JetCast

JetCast เป็นโปรแกรมที่มากับ JetAudio ทำหน้าที่เป็นตัวกระจายเสียงผ่าน Internet ตัวโปรแกรมมีหน้าตาที่ใช้งานได้ง่ายจะขอเริ่มอธิบายการใช้งานของหน้าตาของ JetCast กันก่อนนะครับ

อธิบายความหมาย
1. สถานะว่าเรา On Air อยู่หรือเปล่า ถ้าไฟกระพริบก็แสดงว่า On Air อยู่
2. สถานะว่าไมค์โครโพนทำงานอยู่หรือไม่ได้เปิด
3. หากไฟรูปกุญแจเข้าใจได้เลยว่าเป็นส่วนบุคคลต้องมี Password ถึงจะเข้าไปฟังได้
4. สถานะว่าเปิดเพลงอยู่สามารถรับฟังเพลงได้
5. สถานะบอกว่าจำนวนคนฟังและจำนวนคนที่เข้าฟังได้ว่าจำกัดกี่คน
6. รูปแบบการเล่น (Crossfading play, Continuous play, Microphone ON when current song stops, Microphone ON when next song starts)
7. รูปแบบการเล่น (Random, Normal)
8. รูปแบบการเล่น (Repeat On/Off)
9. ระดับความดังเพลงที่เปิด
10. ระดับความดัง Mic
11. เลือกระหว่างเสียงเพลงกับเสียงไมค์
12. ปรับระดับความดังของเสียงไมค์
13. เปิด/ปิด ไมค์
14. ปรับ Effect ให้กับไมค์ที่เราจะพูด
15. ปุ่ม Broadcast (On Air / Stand by)
16. แสดงรายชื่อเพลงทั้งหมด
17. ไฟแสดงการต่อเชื่อมไปยัง Server ข้างนอก มีให้ถึง 5 Server
18. เพิ่มไฟล์เข้าไปใน List
19. ลบไฟล์ออกจาก List
20. Import Play List ไฟล์ (เฉพาะนามสกุล .pls)
21. บันทึกรายการเพลงเป็นไฟล์ play list (.pls)
22. สุ่มรายการเพลง
23. เลื่อนอันดับคิวไปอยู่ลำดับแรก
24. เลื่อนลำดับคิวขึ้นทีละลำดับ
25. เลื่อนลำดับคิวลงทีละลำดับ

ตั้งค่า JetCast

ต่อไปเราก็มาศึกษาการปรับแต่งค่าต่างๆให้กับ Jetcast กันซึ่งมันก็ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย โดยไปที่ Preferences

General - ปรับค่าทั่วไป

Crossfade เป็นการปรับเสียงให้ค่อยๆเบาลงแล้วเริ่มดังขึ้นเมื่อเราเปลี่ยนเพลงใหม่
AGC (Automatic Gain Control)เป็นการควบคุมระดับเสียงให้มีความสม่ำเสมอกัน

Microphone - ปรับแต่งไมค์โครโฟน

การปรับแต่งไมค์โครโฟน เริ่มแรกเป็นการเลือก Soundcard แต่ล่ะคนจะไม่เหมือนกันแล้วแต่ Soundcard ให้เข้าใจตรงกันว่าเป็น การ์ดเสียงก็พอ ต่อมาเป็น Dvice ของการ์ดเป็นการเลือกเสียงเรียกเข้า ในตัวอย่างนี้เลือกไมค์โครโฟนเสียงไมค์ก็จะดัง

Format - รูปแบบของเสียง

มาถึงตรงส่วนนี้จะเป็นการเลือกรูปแบบของเสียงจะเราจะให้ออกอากาศในที่นี้จะเลือกได้ 3 รูปแบบ คือ MP3,WMA และ Ogg เราจะไม่ขอแจกแจงรายล่ะเอียดของไฟล์พวกนี้นะครับเพราะจะยาวเกินไป สรุปเราเลือกเอา MP3 ธรรมดาเลยล่ะกันที่เราๆท่านๆใช้กันประจำอยู่แล้ว

Station - สถานี

มาถึงการตั้งชื่อสถานีของเรากันแล้วว่าจะให้ชื่ออะไร..เมื่อระบุไปแล้วข้อมุลที่เรากรอกก็จะไปปรากฏให้กับ ผู้ฟังเห็นเมื่อเข้ามารับฟัง

Disc Jockey

กรอกลายล่ะเอียดส่วนตัวของดีเจ

Time Schedule

ในส่วนของตาราง Time Schedule หรือตารางเวลาเป็นตัวบอกว่าสถานีของเราจะออกอาการ เวลาเท่าไหร่วันใหนเปิดกี่ชั่วโมง ก็ให้มากำหนดรายล่ะเอียดของเวลาต่างๆตามชอบกันได้ที่ Time schedule

Chatting - สื่อสารกันระหว่างดีเจ

ส่วนนี้จะทำให้มีห้องที่สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างผู้ฟังกะดีเจ ทำให้สถานีเรามีการติดต่อสื่อสารกันได้ สามารถขอเพลงได้

Metadata - กำหนดแสดงชื่อเพลง

เป็นการกำหนดให้มีการแสดงรายชื่อเพลงที่กำลังเปิดวิธีใส่ก็ใส่ชื่อของสถานี้เราลงไป เช่น My Station:แล้วตามด้วย %t,%a

Private - กำหนดเฉพาะกลุ่ม

ตัว Private นี้เป็นการตั้งค่าหากต้องการความเป็นส่วนตัวของสถานีคือกำหนดเฉพาะกลุ่มจริงๆ ให้มากำหนดที่เมนูนี้แล้วกำหนดรหัสผ่านให้กับสถานีของเรา แต่จะมีข้อจำกัดว่าจะไม่สามารถเล่นได้กับไฟล์ประเภท WMA ได้ คนที่จะเข้าฟังได้ก็จะมีเฉพาะคนที่รู้รหัสเท่านั้น เพียงเท่านี้สถานีของคุณก็จะเป็นส่วนตั๊วส่วนตัวจริงๆ

Server - เชิร์ฟเวอร์

ส่วนนี้เป็นจุดสำคัญที่สุดที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำกันมาตั้งแต่ต้นว่าจะประสบความสำเร็จหรือป่าวก็อยู่ที่ตรงนี้ เพราะเป็นการตั้งค่าของ Server ในส่วนแรกที่เราเจอนั้นเป็นหน้า Internal Server ค่าที่ต้องป้อนคือส่วนของ Port และ Max Listner

Port: คือหมายเลยที่จะถูกใช้งานค่า Default ที่ถูกตั้งไว้คือ 9000
Max: คือจำนวนคนที่ฟังสูงสุดที่เราจะรับ วิธีการคำนวณก็คือ Upload Speed ของเราเท่าไหร่เช่น 256kbps แล้วต้องการออกอากาศที่ 96Kbps ก็เอา 256 ตั้งแล้วหารด้วย 96 ผมลัพธ์ที่ได้ก็คือ 2.66 ก็ปัดเป็น 2 คน

สำหรับในส่วนของ External Server อันนี้สำหรับคนที่มี Server อื่นนอกจากเครื่องตัวเอง ในส่วนของ External จะช่วยให้เราประหยัด Brandwidth ลงได้มากเลย และยังช่วยเพิ่มจำนวนคนฟังมากขึ้นได้อีกด้วย การทำงานก็ไม่มีอะไรมากครับ คือเครื่องของเราจะส่งสัญญาณไปยัง Server ตัวอื่นให้ทำ Streamming สัญญาณไปยังคนฟัง ทำให้เครื่องของเรารับภาระ Bandwidth แค่ครั้งเดียวตอนส่งไปยัง Server บรรยายมาซะยาว มาปรับกันเลยดีกว่า

เริ่มแรกเราต้องคลิกถูกที่ Use external servers แล้วเลือก Server 1 (หมายถึง Server ตัวที่1 ถ้ามีหลายตัวก็เลือกเอาแล้วแต่เราว่าจะเอา Server ตัวใหน)
ต่อมาเป็นการเลือก Server Type ต้องดูว่า Server ที่เราใช้เป็นตัวใหน เช่น Server ที่ผมทำเป็น jetCast Server
อันดับต่อมาเป็นการกำหนดชื่อ Hostname หรือ IP ของ Server แล้วก็ใส่ Password อันท้ายสุดก็ Port number ที่จะให้ JetCast ใช้ตั้งต้องตั้งให้ตรงกะ Server และต้องไม่ชนกับโปรแกรมอื่นในเครื่องของเรา

How to Internet Radio Online

On Air สถานีเราได้แล้ว

ถ้าได้ตั้งค่าอะไรเรียบร้อยแล้วก็ทำการเปิดสถานีได้ โดยการกดที่ปุ่ม Broadcast ที่เป็นรู้คล้ายๆจานดาวเทียมทางด้านซ้ายมือของเรา ก็จะเริ่มทำการติดต่อไปยัง Directory Server ที่ตั้งไว้

Connect แล้วไฟ จะกระพริบที่ ON AIR แล้วก็ให้เอาเพลงเข้ามาใน list ซะ แล้วให้เอา URL ไปให้คนอื่นฟังซะ เช่น http://ip:port ที่เราได้ตั้งไว้ หากทำถูกคนที่เอา URL ไปเปิดต้องเห็นหน้านี้

บทความต่างๆ

การตรวจสอบสถานะ Online ของ SubDomain

การติดตั้ง Mail Server Freeware

การติดตั้ง Mail Server Linux

การติดตั้ง Mail Server Windows Server

การติดตั้ง ThaiDDNS บน Linux

การทำวิทยุออนไลน์

Forwardport NETGEAR Router DG834g

Forward Port D-link 2640 T

Forward Port Linksys Wag54G2

Forward Port ZyXEL P - 320W

Forward Port TOT


	© 2005-2006 WWW.ThaiDDNS.COM. All Right Reserved. Terms of Services l Privacy Policy l Contact Us

Email us at : Sales@thaiddns.com